เมื่อประมาณ 90 ปีที่แล้ว มีโจรที่มีนามเรียกขานว่า บุญเพ็งหีบเหล็ก ถูกประหารชีวิตด้วยการฟันคอ
ศาล
ของบุญเพ็งหีบเหล็ก อยู่ที่ วัดภาษี ถนนเอกมัย
(สุขุมวิท 63) แขวงคลองตันเหนือ เขตวัฒนา กทม. โดยเอาผ้าขาวม้า เอาเครื่องใช้ไม้สอยต่างๆ ไปวางไว้ที่ศาล
ซึ่งในอดีตพื้นที่ตรงนี้เป็นป่าช้า ได้ทำการประหารนายบุญเพ็งนักโทษในคดีพิศวาสอาชญากรรม ณ วันที่ 19 สิงหาคม 2462 จึงได้ให้สร้างศาล
OOO
บุญเพ็งหีบเหล็ก คดีนี้เกิดขึ้นเมื่อปี 2461 ถือว่าเป็นคดีที่สะเทือนขวัญมากในคาบเวลานั้น
ด้วยการกระทำ ที่โหดเหี้ยมแบบฆ่าหั่นศพแล้วยัดใส่หีบเหล็กโยนทิ้งน้ำ ซึ่งก่อนนี้ไม่เคยมี...แต่ปัจจุบันก็มีหลายรายจนรู้สึกชิน
บุญเพ็ง เกิดที่ท่าอุเทน
จังหวัดนครพนม พ่อมีเชื้อสายจีน แม่เป็นชาวญ่อ พออายุได้ 3 ขวบจึงอพยพมาอยู่ที่บางปะกอก พอเติบใหญ่เป็นหนุ่มได้ศึกษาทางไสยศาสตร์จาก
หลายสำนักจนเก่งในเรื่องพยากรณ์ เมตตามหานิยม เสน่ห์ยาแฝด
ประกอบกับเป็นผู้มีรูปร่างงดงาม จึงเป็นที่ปองและถูกตาถูกใจเพศตรงกันข้าม
OOO
ด้วยความ เป็นคนมีเสน่ห์จึงมักเกิดปัญหาที่สาวๆแก่งแย่งกันบ่อยครั้ง อายุ 27 ปี เลยหนีไปบวชเป็นพระอยู่ในร่มกาสาวพัสตร์ได้ 2 พรรษา
ผ้าเหลืองร้อนจึงลาสิกขาบทออกมาประกอบอาชีพ หมอดู หมอยา รับทำเสน่ห์ยาแฝด
ฝังรูปฝังรอย ฯลฯ ใช้ชีวิตเสเพลดื่มสุรายาเมาและเล่นการพนัน
จึงได้เกิดเรื่องราวขึ้น....เมื่อ นางปริก ม่ายสาวทรงเครื่องใส่ทองเพชรนิลเต็มตัว
และหลงใหลในตัวบุญเพ็ง มักมาตื๊อ แต่บุญเพ็งกลับไปชอบหญิงคนอื่น...
...ตอนนั้นบุญเพ็งถูกผีพนันเข้าสิงจนเป็นหนี้เป็นสิน
เลยวางแผนฆ่าชิงทรัพย์นางปริกและทำลายหลักฐาน
ด้วยการหั่นศพออกเป็นท่อนๆใส่หีบเหล็ก ใช้รถเจ๊ก ลากไปโยนทิ้งแม่น้ำ แถวบางลำพูล่าง
ถือว่าเป็นคดีฆาตกรรมจนแทบจะปิดสำนวนทิ้งไป
แต่ เพื่อนสนิท
คนหนึ่งซึ่งหลงรักผู้หญิงคนเดียวกัน จึงหาทางตัดมารหัวใจทิ้งเป็นการชิงรัก
โดยนำความลับไปบอกกับตำรวจอาชญากรโหดสะเทือนขวัญจึงได้ ฉายาว่า....บุญเพ็งหีบเหล็ก
ศาลจึงตัดสินประหารชีวิตด้วยการตัดหัว (สมัยนั้นเรียกว่ากุดหัว) ให้ตาย ตกไปตามกัน ณ ป่าช้าวัดภาษี ซึ่งนักโทษรายนี้ใจแข็งมากร้องขอ ไม่ให้ผูกตา
เพื่อขอดูโลกเป็นครั้งสุดท้าย...
...ศพของบุญเพ็งก็ถูกนำไปฝังในป่าช้าวัดภาษี
และ เป็นรายสุดท้ายของกรุงรัตนโกสินทร์ ที่ประหารด้วยการใช้ดาบตัดคอ
OOO
...หลังจากนั้นก็มีข่าวลือเกี่ยวกับการประหารว่า
บุญเพ็งหีบเหล็ก หนังเหนียวมาก ไม่สามารถฟันคอได้ คมดาบไม่ระคายพิวหนังแม้แต่น้อย ต้องอ้อนวอนขอร้อง ในที่สุด
บุญเพ็งหีบเหล็กจึงยอมให้ประหารด้วยการคายอาคมออกจากปาก เพชฌฆาต
จึงสามารถตัดคอได้สำเร็จ
...แต่ข้อเท็จจริงนั้น ผมได้รับทราบจากแม่ของผมที่ตอนนั้นยังเป็นเด็กได้ไปดูการประหารด้วย เล่าให้ฟังว่า การประหารนั้น มี เพชฌฆาตสองคน ได้รำดาบไหว้ครูเสร็จ คนแรกได้ฟันดาบลงไปที่คอ
แต่ฟันพลาดไปถูกหัวไหล่ คอจึงไม่ขาด เพชฌฆาตคนที่สองจึงลงดาบซ้ำ
ก็ฟันเข้าก้านคอ คอจึงขาดกระเด็น
ซึ่งเมื่อหลายปีก่อนก็มีการสร้างภาพยนตร์ มาฉาย บิดเบียนไปจากข้อเท็จจริงที่แม่ผมได้ไปดูการประหารตัดคอ “ บุญเพ็งหีบเหล็ก “